ช่องโหว่ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่มีชื่อเสียงที่สุดตลอดกาล

ช่องโหว่ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์
ภาพรวมภัยคุกคามทางดิจิทัล
การหาประโยชน์ด้านความปลอดภัยที่มีชื่อเสียง
ช่องโหว่ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่มีชื่อเสียงที่สุดตลอดกาล cover image

ในขณะที่โลกพึ่งพาเทคโนโลยีมากขึ้น ความปลอดภัยทางไซเบอร์ ยังคงเป็นข้อกังวลที่สำคัญสำหรับบุคคล ธุรกิจ และรัฐบาล เมื่อการพึ่งพาแพลตฟอร์มดิจิทัลของเราเติบโตขึ้น ความซับซ้อนของภัยคุกคามทางไซเบอร์ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน บทความนี้นำเสนอช่องโหว่ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่มีชื่อเสียงที่สุดบางส่วน ซึ่งกำหนดความเข้าใจของเราเกี่ยวกับภาพรวมภัยคุกคามทางดิจิทัล การตรวจสอบช่องโหว่เหล่านี้ช่วยให้เราเข้าใจถึงความสำคัญของมาตรการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์และการต่อสู้กับศัตรูทางดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง

1. เลือดหัวใจ (CVE-2014-0160)

เลือดหัวใจ (CVE-2014-0160) เป็น ข้อบกพร่องด้านความปลอดภัยในไลบรารีการเข้ารหัส OpenSSL ซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลายเพื่อรักษาความปลอดภัยการสื่อสารบนอินเทอร์เน็ต Heartbleed ค้นพบในปี 2014 ช่วยให้ผู้โจมตีสามารถอ่านหน่วยความจำของระบบที่ได้รับการปกป้องโดย OpenSSL เวอร์ชันที่มีช่องโหว่ ซึ่งอาจเปิดเผยข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น คีย์ รหัสผ่าน และข้อมูลส่วนบุคคล การใช้ OpenSSL อย่างแพร่หลายหมายความว่า Heartbleed มีผลกระทบอย่างมาก กระตุ้นให้เกิดความพยายามครั้งใหญ่บนอินเทอร์เน็ตในการแก้ไขช่องโหว่

2. การโจมตี WannaCry Ransomware

ในเดือนพฤษภาคม 2017 การโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ WannaCry แพร่กระจายไปทั่วโลก ทำให้คอมพิวเตอร์มากกว่า 230,000 เครื่องในกว่า 150 ประเทศติดไวรัส มัลแวร์ใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ใน Microsoft Windows โดยเฉพาะในโปรโตคอล Windows SMB ที่เรียกว่า EternalBlue WannaCry เข้ารหัสไฟล์บนระบบที่ติดไวรัส โดยเรียกร้องค่าไถ่เป็น Bitcoin เพื่อปล่อยไฟล์ดังกล่าว การโจมตีดังกล่าวเน้นย้ำถึงอันตรายของการไม่อัปเดตซอฟต์แวร์และศักยภาพในการทำลายล้างของแรนซัมแวร์

3. นิรันดร์บลู (MS17-010)

EternalBlue (MS17-010) เป็นชื่อที่กำหนดให้กับช่องโหว่ของซอฟต์แวร์ในระบบปฏิบัติการ Windows ของ Microsoft ค้นพบโดยสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (NSA) และรั่วไหลโดยกลุ่ม Shadow Brokers ในปี 2560 EternalBlue หาประโยชน์จากข้อบกพร่องใน Windows โปรโตคอล SMB ช่วยให้ผู้โจมตีสามารถรันโค้ดบนระบบที่มีช่องโหว่ได้โดยอำเภอใจ ช่องโหว่นี้เป็นรากฐานสำคัญของการโจมตีแรนซัมแวร์ WannaCry และถูกนำไปใช้ในกิจกรรมที่เป็นอันตรายอื่นๆ โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการอัปเดตซอฟต์แวร์อย่างทันท่วงที

4. การฉีด SQL (SQLi)

SQL Injection (SQLi) เป็นช่องโหว่ประเภทหนึ่งที่ช่วยให้ผู้โจมตีแทรกแซงคำสั่งที่แอปพลิเคชันสร้างกับฐานข้อมูลได้ เป็นหนึ่งในวิธีการที่เก่าแก่ที่สุดแต่ยังคงแพร่หลาย โดยแฮกเกอร์ใช้เพื่อเข้าถึงระบบโดยไม่ได้รับอนุญาต ผู้โจมตีสามารถใช้ SQLi เพื่อเลี่ยงผ่านกลไกการเข้าสู่ระบบ เข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อน แก้ไขข้อมูลฐานข้อมูล และดำเนินการดูแลระบบบนฐานข้อมูล ช่องโหว่ของ SQLi แสดงให้เห็นถึงความจำเป็นที่สำคัญสำหรับการเขียนโค้ดที่ปลอดภัยและการตรวจสอบความถูกต้องของอินพุต

5. อสุรกายและการล่มสลาย

Spectre (CVE-2017-5753 2017-5753) - Spectre V-1, CVE-2017-5715 - Spectre V-2) และ ล่มสลาย (CVE-2017-5754) เป็นช่องโหว่ของฮาร์ดแวร์ที่ส่งผลกระทบต่อ ไมโครโปรเซสเซอร์สมัยใหม่ที่ทำการทำนายสาขาและการดำเนินการเก็งกำไร ช่องโหว่เหล่านี้ทำให้ผู้โจมตีสามารถขโมยข้อมูลที่กำลังประมวลผลบนคอมพิวเตอร์ เช่น รหัสผ่านและข้อมูลที่ละเอียดอ่อน โดยใช้วิธีแยกกระบวนการออกจากกัน Spectre และ Meltdown มีผลกระทบในวงกว้าง โดยส่งผลกระทบต่ออุปกรณ์จำนวนนับไม่ถ้วน และจำเป็นต้องมีแพตช์ทั้งในระดับซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์

บทสรุป

ช่องโหว่ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่กล่าวถึงในบทความนี้เป็นเพียงภาพรวมของความท้าทายที่ต้องเผชิญในการรักษาความปลอดภัยสินทรัพย์และข้อมูลดิจิทัล พวกเขาเน้นย้ำถึงความสำคัญของแนวปฏิบัติด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่แข็งแกร่ง รวมถึงการอัปเดตซอฟต์แวร์เป็นประจำ การเข้ารหัสที่ปลอดภัย และการรับรู้ถึงภัยคุกคามล่าสุด เนื่องจากภัยคุกคามทางไซเบอร์มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง กลยุทธ์ในการป้องกันภัยคุกคามของเราก็ต้องเช่นกัน การต่อสู้เพื่อความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ยังคงดำเนินต่อไป และการตระหนักถึงช่องโหว่ที่มีชื่อเสียงเหล่านี้เป็นขั้นตอนสำคัญในการป้องกันตนเองจากภัยคุกคามทางดิจิทัลในอนาคต


Career Services background pattern

บริการด้านอาชีพ

Contact Section background image

มาติดต่อกันกันเถอะ

Code Labs Academy © 2024 สงวนลิขสิทธิ์.